สุนันท์ ศรีจันทรา
ตลาดหุ้นคงปิดฉากปี 2564 ตามเป้าหมายที่บรรดาโบรกเกอร์ทำนายไว้ โดยดัชนีหุ้นไต่ระดับขึ้นมาแถว 1,650 จุด เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2563 ประมาณ 200 จุด หรือเพิ่มขึ้นมาประมาณ 13% ซึ่งถือว่าดีมาก
เพราะปีนี้ตลาดหุ้นเจอผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก จนกลายเป็นวิกฤตหลังจากเทศกาลสงกรานต์ แต่ตลาดหุ้นไม่ได้เกิดความผันผวนรุนแรงมากนัก และพักปรับฐานในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นใหม่
บรรยากาศการลงทุนหุ้นโดยรวมเป็นไปด้วยความสดใส แม้จะมีการแกว่งตัวเป็นช่วงๆ ก็ตาม แม้นักลงทุนต่างชาติยังเทขายหุ้นต่อเนื่อง โดยปีนี้ขายหุ้นสุทธิเกือบ 6 หมื่นล้านบาท แต่นักลงทุนรายย่อยแห่เข้าไปซื้อหุ้น และผลักดันให้ดัชนีเดินหน้าต่อไปได้
ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นคึกคักเกิดจากสภาพคล่องล้นระบบ นักลงทุนที่มีเงินออมไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะฝากเงินกับธนาคารผลตอบแทนต่ำมาก เงินฝากประจำ 1 ปี ได้ดอกเบี้ยเพียง 0.5% ต่อปี จึงโยกย้ายเงินมาลงทุนในตลาดหุ้น
จำนวนนักลงทุนหน้าใหม่ที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นในปีนี้สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยช่วง 10 เดือนแรกมีจำนวนประมาณ 1 แสนราย ทำให้มีเงินก้อนใหม่ไหลบ่าเข้ามาในตลาดหุ้น
และการที่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR นำหุ้นเสนอขายประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ในราคาหุ้นละ 18 บาท โดยหุ้นทั้งหมดเปิดให้ทุกคนมีสิทธิจองซื้อผ่าน 3 ธนาคารใหญ่ กระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในการลงทุน โดยคนที่ไม่เคยลงทุนในหุ้นได้เริ่มลงทุนเป็นครั้งแรกในหุ้น OR
ขณะที่หุ้น บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ได้จัดสรรหุ้นบางส่วนเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อในรูปแบบเดียวกับหุ้น OR และกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวลงทุนอีกครั้ง
เงินก้อนใหม่จากนักลงทุนหน้าใหม่ที่หลั่งไหลเข้ามาช่วยพยุงตลาดหุ้นไม่ให้เกิดความผันผวนรุนแรง และทุกครั้งที่หุ้นปรับตัวลงแรงจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อยเข้ามา จนดัชนีหุ้นไม่ทรุดหนัก หรือเกิดการปรับตัวลงในช่วงสั้นเท่านั้น
นอกจากนั้น ยังทำให้ราคาหุ้นนับ 100 ตัวพุ่งทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งที่ผลประกอบการขาดทุน หรือปัจจัยพื้นฐานยังเปราะบาง โดยมีค่าพี/อี เรโชระดับ 500 เท่า แต่ขอให้มีข่าวกระตุ้นการเก็งกำไรเท่านั้น นักลงทุนก็พร้อมจะแห่เข้าไปซื้อ โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไม่กลัวความเสี่ยง
และปีนี้มีการสร้างข่าวดีกระตุ้นราคาหุ้นกันคึกคัก การปล่อยข่าวลือก็เยอะ ขณะที่นักลงทุนถูกปลุกเร้าด้วยบรรยากาศการเก็งกำไร จึงเกิดปรากฏการณ์หุ้นที่สร้างผลตอบแทนนับพันเปอร์เซ็นต์หลายตัว และหุ้นที่สร้างผลตอบแทนเกิน 100% นับไม่ถ้วน
แม้ผลตอบแทนเฉลี่ยตลาดหุ้นปี 2564 จะตกอยู่ที่ประมาณ 13% แต่มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า หรืออาจได้ผลตอบแทนระดับ 100% ถ้าเลือกซื้อหุ้นถูกตัวในช่วงต้นปี และทนถือมาขายในข่วงปลายปี
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่มีความมั่งคั่งขึ้นจากตลาดหุ้นปีนี้ และบางคนอาจรวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตา
แต่ปีที่เงินไหลมาเทมาในตลาดหุ้นปิดฉากลงแล้ว และตลาดหุ้นปี 2565 กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยโบรกเกอร์หลายแห่งตั้งธงไว้แล้ว เป้าดัชนีปลายปีหน้าอยู่ที่ 1,800-1,850 จุด
ถ้าโบรกเกอร์ทำนายถูก ปีหน้านักลงทุนจะได้เก็บเกี่ยวความมั่งคั่งต่ออีกปี แต่เป้า 1,850 จุด จะได้เห็นกันจริงหรือไม่เท่านั้น
อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket